พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗ เป็นพระไตรปิฏกที่มหามกุฏราชวิทยาลัย พิมพ์เล่มที่ ๙ จุลวรรค ทุติยภาค สังเภทขันธกะ หน้าที่ ๓0๑

ทูลขอวัตถุ ๕ ประการ

ครั้งนั้น พระเทวทัตพร้อมกับบริษัทเข้าเฝ้าพระผู้มี พระภาค เจ้าถวายบังคมแล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควร ส่วนข้างหนึ่ง เมื่อนั่งเรียบร้อยแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส คุณแห่งความเป็นผู้มักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความกำจัด อาการที่น่าเลื่อมใส ความไม่สั่งสม การ ปรารภความเพียร โดยอเนกปริยาย ข้าพระพุทธเจ้า ขอประทานพระวโรกาส ภิกษุทั้งหลายพึงถือการอยู่ป่า เป็นวัตรตลอดชีวิต รูปใดอาศัยบ้านอยู่ รูปนั้นพึงต้องโทษ ภิกษุทั้งหลายพึงถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตรตลอด ชีวิต รุปใดยินดีกิจนิมนต์ รูปนั้นพึงต้องโทษ ภิกษุทั้งหลายพึงถือผ้าบังสกุลเป็นวัตรตลอดชีวิต รูปใดยินดี คหบดีจีวร รูปนั้นพึงต้องโทษ ภิกษุทั้งหลายพึงถือการอยู่โคนไม้เป็นวัตรตลอดชีวิต รูปใดเข้าอาศัยที่มุงที่บัง รูปนั้นพึงต้องโทษ ภิกษุทั้งหลายไม่พึงฉันปลาและเนื้อตลอดชีวิต รูปใดฉันปลาและเนื้อ รูปนั้นพึงต้องโทษ

พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งว่า อย่าเลย เทวทัต ภิกษุใดปรารถนา ภิกษุนั้นจงถือการอยู่ป่าเป็นวัตร รูปใดปรารถนา จงอยู่ในบ้าน รูปใดปรารถนา จงถือเที่ยวบิณบาตรเป็นวัตร รูปใดปรารถนา จงยินดีกิจ นิมนต์ รูปใดปรารถนา จงถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร รูปใดปรารถนา จงยินดีคหบดีจีวร เราอนุญาตโคนไม้ เป็นเสนาสนะ ๘ เดือน เราอนุญาตปลาและเนื้อที่บริสุทธิ์โดยส่วนสาม ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้รังเกียจ

ครังนั้น พระเทวทัตคิดว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงอนุญาต วัตถุ ๕ ประการ จึงร่าเริงดีใจ พร้อมกับบริษัทลุกจากอาสนะ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำประทักษิณ แล้วกลับไป

โฆษณาวัตถุ ๕ ประการ

ต่อมา พระเทวทัตพร้อมกับบริษัทเข้าสู่กรุงราชคฤห์แล้ว ประกาศให้ประชาชนเข้าใจวัตถุ ๕ ประการ ว่า ท่านทั้งหลาย พวกอาตมาเข้าไปเฝ้าพระสมณโคดมขอวัตถุ ๕ ประการว่า พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาค เจ้าตรัสคุณแห่งความเป็นผู้มักน้อย.... การปรารภความเพียร โดยอเนกปริยาย พระพุทธเจ้าข้า วัตถุ ๕ ประการ นี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย.... การปรารภความเพียร โดยอเนกปรยาย ข้าพระพุทธเจ้าขอประทานวโรกาส ภิกษุทั้งหลาย พึงถืออยู่ป่าตลอดชึวิต.... รูปใดฉันปลาและเนื้อ รูปนั้นพึงต้องโทษ วัตถุ ๕ ประการนี้ พระสมณโคดมไม่ทรงอนุญาต แต่พวกอาตมาสมาทานประพฤติตามวัตถุ ๕ ประการนี้

บรรดาประชาชนเหล่านั้น พวกที่ไม่มีศรัทธา.... กล่าวอย่างนี้ว่า พระสมณเชื้อสายศากยบุตรเหล่านี้ เป็นผู้กำจัดมีความประพฤติขัดเกลา ส่วนพระสมณโคดมประพฤติมักมาก ย่อมคิดเพื่อความมักมาก ส่านพวกที่มีศรัทธา.... ย่อมเพ่งโทษ ติเตียน โพทนาว่า ไฉนพระเทวทัตจึงได้พยายามเพื่อทำลายสงฆ์........ พระผู้มีพระภาคเจ้า... ทรงสอบถามว่า ดูก่อนเทวทัต ข่าวว่า เธอพยายามทำลายสงฆ์ ทำลายจักร จริงหรือ พระเทวทัตทูลรับว่า จริงพระเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า อย่าเลย เทวทัต อย่าชอบใจการทำลายสงฆ์ เพราะการทำลายสงฆ์ มีโทษหนักนัก ผู้ใดทำลายสงฆ์ผู้พร้อมเพรียงกัน ย่อมประสบโทษตั้งกัป ย่อมไหม้ในนรกตลอดกัป ส่วนผู้ ใดสมานสงฆ์ผู้แตกกันแล้วให้พร้อมเพรียงกัน ย่อมประสบบุญอันประเสริฐ ย่อมบันเทิงในโลกสวรรค์ ตลอด กัป อย่าเลย เทวทัต เธออย่าชอบใจการทำลายสงฆ์เลย เพราะการทำลายสงฆ์มีโทษหนักนัก