HOMEDEBUILD รับสร้างบ้าน คุณภาพเหนือมาตรฐาน
คำถาม คำตอบทั่วไป
ฐานรากต้องตอกเสาเข็มหรือไม่
โดยปกติถ้าพื้นดินเป็นดินแข็ง การสร้างบ้านชั้นเดียวหรือสองชั้นส่วนใหญ่จะไม่ตอกเสาเข็มกัน นอกเหนือจากบ้านบางแบบที่มีลักษณะเฉพาะ หรือลักษณะของดินบางประเภท เช่น ดินเหนียว (ในกรุงเทพ และ ปริมณฑล) ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องทดสอบเพื่อคำนวณหากำลังรับน้ำหนักของดิน เพื่อให้ทราบว่าควรใช้เสาเข็มขนาดหน้าตัดใด ความยาวเท่าไร และลักษณะของฐานรากควรเป็นอย่างไร
บ้านทรุดเกิดจากอะไร
บ้านบางหลังอาจเกิดการทรุดตัวของดินที่ไม่เท่ากัน ดังได้กล่าวมาแล้วจากข้อบน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้วิศวกรผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้พิจารณาลักษณะของดินในเบื้องต้น เพื่อที่จะกำหนดว่าควรทำการทดสอบดินในบริเวณที่จะทำการก่อสร้างก่อนหรือไม่ จะต้องทดสอบดินจุดใดบ้าง จำนวนจุดมากน้อยเพียงไร เพื่อให้ได้คำตอบในการออกแบบฐานรากต่อไป
เห็นผู้รับเหมาค้ำยันคานชั้น2 แค่วันเดียวก็เอาออกแล้ว คานจะเสียหายไหม
บางครั้งเรื่องระยะเวลาการก่อสร้างก็เป็นเงื่อนไข ที่ทำให้ผู้รับเหมาทั่วไปเร่งงานเพื่อให้ทันกำหนดระยะเวลาของสัญญา และทำไปเพื่อจะได้รับเงินงวดงานเร็วขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดเลย การค้ำยันคาน พื้น คานยื่น พื้นยื่น ลักษณะของการค้ำยันจะไม่เหมือนกัน แม้แต่พื้นสำเร็จรูป กับพื้นหล่อกับที่ ก็มีลักษณะของงานที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นวิธีการทำงานจึงสำคัญ และที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือการควบคุมงาน เพราะผู้ควบคุมงานที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ จะรู้ถึงวิธีการทำงานของแต่ละลักษณะของงานนั้นๆ ว่าควรเป็นอย่างไร
ตามปกติ คานชั้น2 ชนิดมีเสาทั้ง2ข้างของคาน จะทำการค้ำยันท้องคานเอาไว้อย่างน้อย 7 วัน จึงจะทำการถอดแบบด้านข้างและแบบท้องคานออก และยังทำการค้ำยันท้องคานต่อไปอีก จนครบอายุ 28 วัน จึงจะเอาค้ำยันออกได้ ( ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ชนิด และอัตราส่วนผสมของคอนกรีต )
ทำไมหลังคาจึงมีน้ำไหลซึม ช่างขึ้นไปเช็คก็ไม่เห็นมีรอยรั่ว
สาเหตุที่เป็นไปได้มีหลายประการ ตั้งแต่มุมลาดเอียงของหลังคาเหมาะสมกับวัสดุมุงหรือไม่ ระยะทับซ้อนของหลังคาเพียงพอหรือไม่ ลักษณะการทับซ้อนของครอบ ย้อนทิศทางของน้ำฝนหรือไม่ ตะเฆ่รางชิดเกินไปหรือไม่ ทำให้ร่องระบายน้ำเล็กเกินไป น้ำไหลไม่ทันทำให้น้ำล้นและย้อนกลับ รอยต่อระหว่างหลังคาที่มีมุมลาดเอียงไม่เท่ากันมาบรรจบกันทำได้ดีหรือไม่ ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จำเป็นที่ผู้แก้ไขจะต้องได้เห็นหน้างานที่แท้จริงจึงจะสามารถหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด จึงจะทำให้ปัญหาดังกล่าวหมดไป
สงสัยว่าน้ำประปาจะรั่ว แต่ไม่รู้จุดใด
เรื่องน้ำประปา หรือท่อน้ำ ทั้งน้ำดี น้ำทิ้งภายในบ้าน หากเกิดปัญหาแล้วจะแก้ไขได้ยาก เนื่องจากท่อต่างๆดังกล่าวมักอยู่ภายในผนัง ใต้พื้นดิน การแก้ไขจึงทำได้ยาก ต้องทำการทดสอบแรงดันน้ำในแต่ละช่วงของท่อเพื่อหาจุดที่รั่ว แล้วทำการแก้ไขเสีย แต่โอกาสเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบ้านอาจจะมากหรือน้อยต้องพิจารณาเป็นกรณีๆไป หรืออาจต้องหาทางแก้ไขทางอื่นเช่นต่อท่อและเปลี่ยนแนวเดินท่อน้ำใหม่ หากเปรียบเทียบแล้วว่าคุ้มค่ากว่าการทุบเพื่อเปลี่ยนท่อใหม่ ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการป้องกันการรั่วซึมของน้ำจะทำได้ง่ายกว่า และมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า ไม่เกิดเสียดายบ้านอันแสนรักของเราในภายหลัง โดยทำการทดสอบแรงดันของน้ำภายในท่อ ในขณะทำการก่อสร้าง และภายหลังจากติดตั้งสุขภัณฑ์เสร็จ จะได้ผลที่ค่อนข้างแน่นอนกว่า