ประวัติกล่องเพลง (music box)

กล่องดนตรีหรือ music box เป็นต้นกำเนิดของตู้เพลงแบบหยอดเหรียญ มีต้นกำเนิดมาจากระฆังระฆังในโบสถ์ที่ใช้สั่นบอกเวลาเป็นเสียงเพลง เริ่มจากปี ค.ศ. 1796 อองตวน ฟาเวร่ ชาวเมืองเจนีวาประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นำเทคนิคสร้างเสียงระฆังนี้มาดัดแปลง โดยใช้แท่งโลหะและลูกตุ้มไปติดแทน แล้วเชื่อมโยงด้วยหมุดเหล็ก พัฒนาให้เป็นนาฬิกาเสียงดนตรี จากนั้นในปี 1802 จึงนำผลงานประดิษฐ์ดังกล่าวมาย่อส่วนใส่ลงในกล่องยานัตถุ์เพลง (music suff box) ซึ่งถือเป็นต้นแบบของ music box เป็นต้นมา

ในปี ค.ศ. 1815 ทั้งกรุงเจนิวาและเมืองสเต-ครัวซ์กลายเป็นแหล่งอุสาหกรรมผลิตกล่องเพลง โดยนายเดวิด เลอคูลเทร ถือเป็นนายช่างคนแรกที่นำโลหะทรงกระบอกมาใช้ตรึงหมุดในกล่องเพลงเป็นคนแรก ทั้งเป็นคนเพิ่มซี่เหล็กทำเสียงดนตรีออกเป็น 5 ซี่ (เหมือนหวี) เพื่อเพิ่มเสียงตัวโน๊ตมากขึ้น ขณะเดียวกันพี่น้องตระกูลนิโคล ก่อตั้งโรงงานผลิตกล่องดนตรีชื่อ นิโคล-เฟรเรส์ พัฒนาเทคนิคทำกล่องเพลง เช่น ใช้ไม้ผลมาทำเป็นตัวกล่องให้สวยงาม และใช้ตัวควบคลุมการทำงานของดนตรี 3 ตัว(ตัวเปลี่ยนเสียงเพลง ตัวเริ่มหยุดเสียง และตัวหยุดเสียงทันที) นอกจากนี้ยังประดิษฐ์ตัวไขลานติดไว้ที่ด้านซ้ายของกล่อง (บริษัทนี้มีชื่อเสียงมากจนถึงปัจจุบัน)

ในช่วง ค.ศ. 1850-1870 ถือเป็นช่วงที่มีการประดิษฐ์กล่องดนตรีที่ประณีตที่สุด ทั้งในด้านเสียงเพลงและตัวกล่อง จากนั้นในช่วง 1880
อุตสาหกรรมผลิตกระบอกโลหะ (ตัวหมุน) เฟื่องฟูมาก เมื่อกล่องเพลงเป็นที่นิยมแพร่หลายคนธรรมดาเดินดนก็ซื้อได้ แต่การผลิตกล่องเพลงมาชงักราวปี 1910 เมื่อประชาชนหันไปนิยมเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่เอดิสันประดิษฐ์ขึ้นในปี 1877 จากนั้นเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 การประดิษฐ์กล่องเพลงจึงซบเซาไป ในปัจจุบันกล่องเพลงที่มีชื่อเสียงยังคงเป็นของสวิส แต่บริษัทเยอรมันเองก็ไม่น้อยหน้า สามารถครองส่วนแบ่งของตลาดได้มากที่สุด

เพลงที่นิยมใช้ในกล่องเพลงส่วนมากเป็นเพลงคลาสสิค แต่ปัจจุบันนี้มีหลากหลายครับ
หาฟังได้จาก วง X - Japan


นำบทความนี้มาจาก น้าชาติ ประชาชื่น (ขอขอบคุณมากครับ)

Home