อาชีพด้านเกษตรกรรมต้องล่มสลายลงในปัจจุบันนี้
เพราะการพ่ายแพ้ต่อโรคและแมลง แล้วมีปัญหาการตลาดมาซ้ำเติม
การปลูกกระชายสามารถแก้ปัญหานี้ได้
กระชาย
เป็นพืชล้มลุก พอถึงฤดูแล้ง ต้นจะตาย ใบจะแห้งหมด หลังจากนั้นปลวกก็จะกินใบ
หากไม่ขุดหัวไปขาย จะหาต้นกระชายไม่เห็น
ปลูกกระชายง่ายกว่าพืชอื่นมาก
ไม่มีแมลงและโรครบกวน ลดต้นทุนและแรงงานการผลิตในด้านนี้ได้หมด
ค่าใช้จ่ายที่เหลือจึงมีเพียงกำจัดวัชพืชในระยะแรกเพียงครั้งเดียว
พอใบคลุมดินจรดกัน วัชพืชก็ขึ้นไม่ได้ หลังจากนั้นเราก็ไม่ต้องปฏิบัติอะไร
นอกจากใส่ปุ๋ย แล้วรอไปจนสิ้นฝน ก็ขุดมาขายได้
การปลูกพืชชนิดนี้
เกษตรกรจึงมีเวลาว่าง ไปทำงานด้านอิ่นได้ ไม่ต้องมาปฏิบัติวกวนไปมาเหมือนการปลูกพืชที่ต้องกำจัดโรคและแมลง |
การปลูกกระชายให้ตุ้มรากยาว
กระชาย
เป็นพืชที่มีตุ้มต่อจากหัว ส่วนหัวจะเป็นก้อนค่อนข้างจะกลม
ติดกับลำต้น เป็นก้อนไม่ใหญ่นัก ผู้ซื้อต้องการได้ตุ้มหรือส่วนที่เป็นรากยาวๆ
หากส่วนนี้สั้นๆ มักขายไม่ได้ราคา
สาเหตุที่ตุ้มหรือรากสั้น
มีที่มาอยู่ 2 ประการคือ ดินใต้ต้นกระชายจะแข็ง ตุ้มเจริญเติบโตลงไปในดินไม่ได้
ประการที่ 2 ได้ปุ๋ยไม่พอเพียง
การแก้ปัญหาดินใต้ต้นแข็ง
การปลูกดินจะต้องร่วนซุยค่อนข้างลึก ลึกพอที่รากหรือตุ้มจะแทงลงไปให้รากยาวตามต้องการ
อย่างน้อยดินจะต้องร่วนซุยลึกประมาณหนึ่งคืบเศษๆ ทางที่ดีจะต้องปลูกโดยยกร่อง
ร่องที่ยกนั้นควรสูงประมาณ 50 เซ็นติเมตร ไม่ควรต่ำกว่านี้
เพราะเมื่อฝนตก น้ำจะชะล้างทำให้ร่องต่ำลงอีก หลังร่องควรเกลี่ยให้แบนๆ
ไม่ควรให้เป็นสัน บริเวณใกล้ต้น จะได้มีปุ๋ยพอเลี้ยงลำต้น
การให้ปุ๋ย
ควรเร่งให้งามไปตั้งแต่เริ่มปลูก อย่าให้กระชายชะงักงัน
รากหรือตุ้มจะแกร็น การเติบโตของลำต้นต้องเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ
ลำต้นต้องอวบ
การปลูก
เลือกปลูกได้ 3 วิธี วิธีที่ 1 ปลูกโดยยกร่อง วิธีที่ 2
ปลูกเป็นแปลง วิธีที่ 3 ปลูกเป็นหลุม การปลูกโดยวิธียกร่อง
ผิวดินจะน้อยกว่าการปลูกเป็นแปลง สารอาหารในดินจะสมบูรณ์
เนื่องจากไม่ถูกน้ำชะล้างปุ๋ยหายไปทางอื่น ส่วนปลูกเป็นหลุมนั้นเหมาะแก่พื้นที่ที่มีจำกัด
การปลูกเป็นหลุม
ก็คือ การปลูกเป็นแปลงขนาดย่อมนั่นเอง หลุมที่จะปลูกอย่างน้อยควรมีรัศมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ
1 เมตร ทำเป็นหลุมกลมๆ สะดวกแก่การปฏิบัติ หากที่มีจำกัด
จะปลุกเป็นหลุมเล็กหลุมน้อยแซมในที่ว่างก็ได้ผลเช่นกัน
กระชายปลูกแซมใต้ร่มไม้ยืนต้นได้ เพราะต้องการแสงแดดน้อย
ปลูกได้งอกงามดี |
สภาพของดินที่ปลูก
ตามปกติผิวดิน
จะประกอบไปด้วยทรายหยาบและละเอียด ส่วนที่เป็นดิน จะเป็นดินตะกอนที่น้ำพัดพามาทับถมกันเป็นชั้นๆ
ตะกอนนี้จะหนาบางไม่เท่ากันในแต่ละพื้นที่ ตะกอนนี้จะมีไปตั้งแต่หยาบๆและละเอียดจนเป็นฝุ่น
พืชจะงามหรือไม่งามอยู่ที่ความหนาบางของดินตะกอน
ดินตะกอนนี้ต้องมีสีคล้ำๆ ดำๆ สีคล้ำๆดำๆนั้นคืออาหารของพืช
หากมีสีขาวซีดอาหารของพืชจะน้อย จึงต้องนำปุ๋ยมาใส่เพิ่มให้
การทดสอบอาหารพืชในดิน
ทำได้โดยนำดินประมาณ 1 ลิตร ใส่ในกะละมัง แล้วนำน้ำมาใส่
คนให้น้ำขุ่น แล้วเทน้ำนั้นมาใส่ในกะละมังอีกใบหนึ่ง ทำเช่นนี้หลายๆครั้งจนน้ำใสไม่มีดินตะกอนออกมา
แล้วปล่อยให้น้ำนั้นตกตะกอน รินน้ำใสๆทิ้ง ให้เหลือดินตะกอนนอนก้น
ตะกอนที่นอนก้นนั้นคือส่วนที่เป็นปุ๋ย เราก็จะทราบได้ว่า
ดินใน 1 ลิตร มีอาหารพืชมากน้อยเพียงใด การใส่ปุ๋ยลงไปเพิ่มในดิน
ก็จะหาได้จากสูตรนี้ |
จากการทดลอง
การปลูกพืชในที่เดิมซ้ำๆกันหลายครั้งโดยไม่ใส่ปุ๋ย
ทดลองดูด้วยการนำดินมาล้างน้ำดูการตกตะกอนของดิน จะปรากฎว่าสีของตะกอนของดินจะเปลี่ยนจากสีดำมาเป็นสีขาวลงเรื่อยๆ
สีดำคล้ำๆจะค่อยๆหายไปจนสีดำนั้นหมด
ทดลองดูง่ายๆ
นำดินจำนวนหนึ่งใส่กระถางปลูกบัว ใช้กระถางใหญ่หน่อยหรือจะใช้ท่อปูนซีเมนต์อย่างที่ใช้ทำส้วมจะเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
นำดินใส่ลงไปหนาประมาณ
1 คืบ นำบัวมาปลูกในนั้นให้เต็ม ใสน้ำอย่าให้แห้ง เมื่อบัวมีรากเต็มที่ปลูก
ดินที่ใส่ไว้นั้นจะค่อยๆหายไปจนหมด จะเหลือแต่รากบัวเกาะกันเต็มที่ปลูก
ไม่มีดินเหลืออยู่เลย นี่เป็นวิธีดูการกินอาหารของพืชอย่างง่ายๆ
การปลูกพืชในดินแปลงใหญ่
เรามองไม่เห็นการกินอาหารของพืช พืชจะเลือกดูดแต่ส่วนที่เป็นอาหารเท่านั้น
ดินที่ไม่มีอาหารพืชจะไม่ดูดเข้าไป สิ่งที่เหลือคือเม็ดทราย
นี่คือที่มาให้พืชที่ปลูกไม่เจริญเติบโต |
การปลูกกระชายดีอย่างไร
ดีที่มีการปฏิบัติน้อย
สะดวก ไม่ต้องทำงานตรากตรำเหมือนการปลูกพืชอย่างอื่น ไม่มีโรคและแมลงมารบกวนให้ยุ่งยาก
กระชายแต่ละต้นลงหัวเป็นกระจุก ได้ผลผลิตต่อพื้นที่สูง การตลาดต้องการอย่างกว้างขวาง
เก็บไว้ได้นานไม่เสียหาย หากราคาตกต่ำหรือช่วงที่กระชายล้นตลาด
เรายังไม่ขุดขึ้นมาขายรอให้มีราคาสูงหรือขาดตลาดจึงค่อยขุดขึ้นมายังได้
แม้จะขุดขึ้นมาแล้ว กระชายก็ยังเก็บไว้ได้นานไม่เน่าหรือเสียหาย
การปลูกก็สะดวก หากไม่มีพื้นที่ จะปลูกตามซอกตามมุมรอบๆโคนต้นไม้ก็เจริญเติบโตได้ตามปกติภายใต้สวนผลไม้
จะเป็นที่ว่างไปโดยเปล่าประโยชน์ ภายใต้ทรงพุ่มของต้นไม้นั้น
เป็นรากแขนง เพียงเป็นท่อลำเลียงอาหารมาสู่ลำต้น ไม่ได้ทำหน้าที่ดูดอาหารจากพื้นดิน
บริเวณนั้นจึงปลุกกระชายได้
หน่ออ่อนของกระชาย
ยังนำมาเป็นผักต้มจิ้มน้ำพริกได้อีกด้วย หากไม่มีพื้นที่มาก
จะปลุกไว้ตามซอกตามมุมในที่ร่ม เล้กๆน้อยๆ ก็ยังนำมาเป็นรายได้เสริมในครัวเรือนได้อีกด้วย
กระชาย จึงเป็นพืชที่แก้เศรษฐกิจในครัวเรือนได้ |