รื่นเริงธรรม ตอน ๒๑-๓๐

รูปข้างบน fun... สามารถกดเชื่อมต่อรื่นเริงธรรม
ภาคต่าง ๆ ได้ขอรับ

รื่นเริงธรรม ตอน ๒๑ เส้นทางธรรม...
รายละเอียด : หนทางปฏิบัติแต่ละเส้นทาง มีดังนี้
๑ ทางไปสู่พระนิพพาน ต้องปฏิบัติตามมรรคมีองค์ ๘
คือการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมี รูป นาม เป็นอารมณ์
๒ ทางไปสู่พรหมโลก คือการปฏิบัติ สมถกรรมฐาน มีบัญญัติเป็นอารมณ์
๓ ทางไปสู่สวรรค์ คือมีการให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา
๔ ทางไปเกิดเป็นมนุษย์ คือรักษาศีล ๕ และ กุศลกรรมบถ ๑๐
๕ ทางไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ด้วยอำนาจ โมหะ(ความหลง)
คือมีความเห็นไม่ถูกต้องตามทำนองครองธรรม
๖ ทางไปเกิดเป็นเปรต อสุรกาย ด้วยอำนาจ โลภะ
คือความอยากได้ ความรัก ความห่วงใยต่าง ๆ
๗ ทางไปเกิดเป็นสัตว์นรก ด้วยอำนาจความโกรธ ความไม่พอใจ
ความแค้นใจ ความหม่นหมองใจ เป็นต้น

จากคุณ : โก๋ 2000 ปี [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 17:32:21 น.]

ความคิดเห็น : มีเจ็ดทางวางเห็นเป็นอย่างนั้น
เชิญเลือกสรรสู่ตนหนทางหลาย
ทางมนุษย์เทวดาท้ามากมาย
ทางอบายก็มีนี้น่ากลัว
ทางเป็นพรหมอรหันต์นั้นวิเศษ
ละกิเลสเหนียวติดฤทธิ์สุดขั้ว
พึงบำเพ็ญตามทางสร้างเต็มตัว
รู้ดีชั่วชำระนะทางควร.
โดยคุณ : ดอกสารภี [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 17:35:45 น.]
รื่นเริงธรรม ตอน ๒๒ มองแต่แง่ดีเถิด
รายละเอียด : ...เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย
จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว
อย่ามัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเอย
ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริง...

...พุทธทาสภิกขุ...

จากคุณ : โก๋ 2000 ปี [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 17:33:58 น.]

ความคิดเห็น : สวยงามจริงๆ
โดยคุณ : เอก akac@thaimail.com [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 21:49:28 น.]
รื่นเริงธรรม ตอน ๒๓ กายอินทรีย์ และธรรมกาย...
รายละเอียด : ...คนเราเมื่อยังเด็ก ความหม่นหมองมิปรากฏนัก
เพราะมีผู้เลี้ยงดูให้และกายก็ยังมิได้ขยายตัวเต็มที่
จนสามารถรับความรู้สึกสุดขีดได้ทุกอินทรีย์
คือ เต็มที่ทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
ครั้นเมื่อกายเจริญเต็มที่เข้า ความหม่นหมองก็เกิดมากขึ้น
เพราะขาดดุลยภาพ กล่าวคือ ทางรูปกายโตใหญ่ขึ้น
แต่ทางธรรมกายไม่เจริญให้เสมอคู่เคียงกัน...

...เกร็ดธรรม โดย ท่านพุทธทาสภิกขุ...

จากคุณ : โก๋ 2000 ปี [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 17:36:38 น.]

ความคิดเห็น : งดงามจริงๆ
โดยคุณ : เอก akac@thaimail.com [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 21:48:26 น.]

ความคิดเห็น : กิเลสลึกฝึกรู้สู้ไปเถิด
ผลบังเกิดยามชนะจะสดใส
กิเลสลึกผนึกอยู่รู้ด้วยใจ
พระธรรมไซร้นำมาสู้ให้อยู่ตัว.
โดยคุณ : ดอกสารภี [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 17:42:12 น.]
รื่นเริงธรรม ตอน ๒๔ สันติธรรม ค้ำจุนโลก...
รายละเอียด : ...การแสวงหาความสุขทางฝ่ายจิตนั้น จะไม่กระทบกระทั่งใครเลยแม้แต่น้อย
เพราะเหตุว่ามีอะไร ๆ ให้แสวงอยู่ในตนผู้เดียวเสร็จ ไม่ต้องเนื่องด้วยผู้อื่น
และมีแต่จะเสียสละให้ผู้อื่น...
...การกระทบกระทั่งระหว่างบุคคล หรือ แม้การกระทบกระทั่งระหว่างส่วนรวม
ซึ่งเรียกว่า การสงคราม ก็ตาม ไม่สามารถเกิดจากผู้แสวงหาความสุขทางจิต
เช่นเดียวกับที่ไฟไม่สามารถเกิดจากความเย็น...
...การแสวงหาอาหาร ทางฝ่ายกาย ง่ายหรือตื้น และเป็นต้นเหตุแห่งสงคราม
...การแสวงหาอาหาร ทางฝ่ายใจ ยากหรือลึก และเป็นต้นเหตุแห่งสันติภาพ
...แต่กระนั้นมนุษย์ในโลกนี้ ส่วนมากก็ปล่อยตนไปตามสัญชาตญาณ
หรือธรรมดาฝ่ายต่ำมากเกินไป จนเห็นมีแต่ผู้ถือลัทธิวัตถุนิยมกันเกลื่อนโลก...
...ยิ่งนานวันเข้าเพียงใด วิธีแสวงอาหารทางใจก็ยิ่งลบเลือน
หายไปจากความทรงจำและการเอาใจใส่ของมนุษย์มากขึ้นเพียงนั้น
ในที่สุด ก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่ในมันสมองของมนุษย์
นอกจากความเป็นทาสกามหรือความเห็นแก่ตัว
นั่นแหละ คือสมัยที่ไฟประลัยกัลป์จะล้างโลก...
...ถึงแม้จะมีผู้แสวงสุขทางใจในโลกนี้ อยู่เพียงไม่กี่คนก็ตาม
ก็เป็นเหมือนลูกตุ้มที่คอยถ่วงโลกไว้ มิให้หมุนไปถึงยุคมิคสัญญี
พินาศด้วยไฟประลัยกัลป์เร็วเกินไปเพียงนั้น...

...สันติธรรม โดย ท่านพุทธทาสภิกขุ...

จากคุณ : โก๋ 2000 ปี [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 17:38:52 น.]

ความคิดเห็น : เสาะแสวงหากันบ้างก็ดี
บางทีก็ลืมๆ เหมือนกัน
โดยคุณ : ฟ้า!! [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 16:57:19 น.]

ความคิดเห็น : อาหารกายหมายแสวงแหล่งห้ำหั่น
ไร้สุขสันต์ขันแข่งแย่งกันอยู่
อาหารใจแสวงแหล่งในดู
มิหมายสู้ผู้ใดแต่ใจตน.
โดยคุณ : ดอกสารภี [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 17:45:28 น.]
รื่นเริงธรรม ตอน ๒๕ เจริญธรรมนำสุข...
รายละเอียด : ...ความเจริญทางกายนั้น ไม่มีทางไปอีกต่อไป
มันสูงสุดได้เพียงแค่ความอิ่มหมีพีมันด้วย รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส
และด้วยอารมณ์ทางใจบางอย่าง เช่นความทะนงในยศศักดิ์เป็นต้น เท่านั้น...
...ไม่มีใครเคยทำให้เกิดความอิ่มความพอในเรื่องทางโลกียวิสัยได้เลย
แม้ในอดีต ในปัจจุบัน และอนาคต เพราะว่าทางฝ่ายนี้ต้องการ
ความไม่รู้จักพอ... นั่นเอง เป็นเชื้อเพลิงอันสำคัญแห่ง ความสำราญ
ถ้าพอเสียเมื่อใดก็หมดความสำราญ ใครจะขวนขวายอย่างไร
ก็ไม่อาจได้ผลสูงไปกว่า การสยบซบซึม
อยู่ท่ามกลางกองเพลิงแห่งการถูกปลุกเร้าของตัณหา
ซึ่งเมื่อใดม่อยหรี่ลง ก็จำต้องหาเชื้อเพลิงมาเพิ่มให้ใหม่อีก
และไม่มีเวลาที่จะรู้จักอิ่มรู้จักพอ...
...การแสวงหาอาหารทางฝ่ายใจ เพื่อดวงใจนั้นเป็นสิ่งที่มีค่า
น่าทำกว่า เป็นศิลปะกว่า เป็นอุดมคติที่สูงกว่า
ทำยากหรือน่าสรรเสริญกว่า หอมหวนกว่า เยือกเย็นกว่า
กว่าการแสวงหาทางฝ่ายกาย เพื่อกาย โดยทุก ๆ ปริยาย...

จากคุณ : โก๋ 2000 ปี [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 17:43:55 น.]

ความคิดเห็น : หอมกลิ่นธรรมะ นะเจ้าค่ะ
โดยคุณ : ดาว [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 16:58:35 น.]

ความคิดเห็น : เจริญกายหมายมีอ้วนพีนั้น
บำรุงกันอย่างไรก็ไม่พ้น
เจริญใจใสงามตามภิรมย์
สูงสุดสมสู่นิพพานพ้นมารเยือน.
โดยคุณ : ดอกสารภี [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 17:48:43 น.]
รื่นเริงธรรม ตอน ๒๖ สำคัญผิด...แล้วละท่าน...
รายละเอียด : ...แม้บางคราว คนพวกนี้จะเอ่ยถึงความสำราญใจกันบ้าง
ก็เพียงการหลงตู่เอาความสำราญฝ่ายกายขึ้นมาแทนเท่านั้น
คำว่า สำราญใจ ของเขาเป็นคนละอย่างจาก
ความสำราญในใจอันแท้จริง จะสำราญใจได้อย่างไร
ในเมื่อใจถูกทำให้ พองขึ้น-ยุบลง พองขึ้น-ยุบลง อยู่เสมอ
ความพองขึ้นก็ตาม ยุบลงก็ตาม
ย่อมเป็นสิ่งทรมานใจให้เหน็ดเหนื่อยเท่ากัน
เพียงแต่เป็นรูปร่างที่ต่างกันเท่านั้น...
...สำหรับผู้นิยมทางฝ่ายสำราญกายนั้น ลาภ ยศ สรรเสริญ
และความเพลิดเพลิน ทำใจให้...พองเบ่ง
เสื่อมลาภ เสื่อมยศ ถูกสบประมาท
และหาความเพลินมิได้ ทำใจให้...ยุบเหี่ยว
แต่ทั้งสองอย่างนี้ทำความหวั่นไหวโยกโคลง
หนักอกหนักใจให้แก่จิตใจ เท่ากัน...
...เมื่อเขาได้สมอยาก เขาก็ได้ความหวั่นไหว
เมื่อไม่ได้ ก็ได้ความหวั่นไหว
เมื่อมืดมนหนักเข้าก็แน่ใจลงไปเสียว่า
ความอร่อย หรือขณะที่อร่อยนั้นแหละเป็น
พระนิพพาน...ของชีวิต
แต่แท้ที่จริงเขาผู้นั้นยังไม่ได้ถอยห่างออกมาจาก
กองทุกข์แม้แต่นิดเดียว
มันเป็นเพียงความสำคัญผิดที่จะมัดตรึงตัวเอง
ให้ติดจมอยู่กับบ่อโคลนนั่น ตลอดเวลาเท่านั้น...

...ตามรอยรื่นเริงธรรม ท่านพุทธทาสภิกขุ...

จากคุณ : โก๋ 2000 ปี [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 17:47:15 น.]

ความคิดเห็น : สวยงามจริงๆนะ
โดยคุณ : เอก akac@thaimail.com [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 21:29:22 น.]

ความคิดเห็น : ยุบหนอ...พองหนอ...ขอหยุดแล้ว
เดินตามแนวตั้งมั่นไม่หวั่นไหว
สุขเที่ยงแท้นั้นรู้อยู่ที่ใจ
เบิกบานได้เพียงใจนิ่งไม่ดิ่งลง
โดยคุณ : กุหลาบเวียงพิงค์ [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 21:52:26 น.]

ความคิดเห็น : ยุบหนอ-พองหนอท่องต่อเนื่อง
เป็นแต่เรื่องลำบากยากเห็นผล
หากหยุดได้ดังใจไปทุกคน
คงเลิกวนเวียนเกิดประเสริฐแท้
โดยคุณ : รจนา [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 09:20:12 น.]

ความคิดเห็น : สำราญโลกต่างธรรมสำราญเหลือ
สำราญเพื่อหมดภัยไร้เศร้าหมอง
สำราญโลกโศกยังมีที่จับจอง
สำราญทองสำราญธรรมทุกข์อำลา.
โดยคุณ : ดอกสารภี [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 17:54:10 น.]
รื่นเริงธรรม ตอน ๒๗ ท่านมีธรรมะ เป็นอาหารใจแล้วหรือยัง?
รายละเอียด : ...ท่านผู้ใด มีความรู้สึกอยู่ว่า
ธรรมะที่เป็นอาหารใจยังเป็นของสำคัญต่อชีวิต
ยิ่งไปกว่าอาหารทางกายอยู่เพียงใดแล้ว
โลกนี้จักยังไม่เป็นของร้อนสำหรับท่านผู้นั้น
และทั้งหวังได้ว่าผู้นั้น
จะสามารถมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้อย่างสดชื่น
แม้ทุก ๆ กรณี ที่โลกจะเปลี่ยนแปลงหรือมีอันเป็นไป...

...ธรรมฉ่ำใจ โดย ท่านพุทธทาสภิกขุ...

จากคุณ : โก๋ 2000 ปี [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 17:55:24 น.]

ความคิดเห็น : ธรรมชาติชีวิต
โดยคุณ : เอก akac@thaimail.com [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 21:28:08 น.]

ความคิดเห็น : วันเดือนหมุนเวียนเปลี่ยนไป
อาหารใจคือธรรมาอาหารจิต
ต้องติดตัวติดกายได้ทุกทิศ
แสงชีวิตคือแสงธรรมประจำกาย
โดยคุณ : ฟ้า!! [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 16:55:20 น.]

ความคิดเห็น : อาหารดีมีใจใสสดยิ่ง
อาหารจริงสิงใจใสสว่าง
อาหารเลิศเพริศธรรมนำส่องทาง
อาหารสร้างสู่ใจพ้นภัยพาล.
โดยคุณ : ดอกสารภี [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 17:57:44 น.]
รื่นเริงธรรม ตอน ๒๘ คติธรรม โดย หลวงพ่อชา สุภัทโท...
รายละเอียด : ...เมื่อจิตมันตื่นขึ้นมาแล้ว อะไรก็ตื่นตาม...

...ตายเพราะการปฏิบัติอย่างนี้ก็พอใจตาย
แต่ตายเพราะไปทำความชั่วซิ ไม่ค่อยดี...

...เธอ......ทุกข์........เพราะ........คิด......ผิด...

...ก็ให้มันทุกข์เสียก่อนซิ มันถึงจะอดทน
ถ้าไม่มีความอดทน มันจะเห็นธรรมะไหม...

...จงปล่อยวางในอาการของจิตที่ไม่ปล่อยวาง...

...ฉันจะไม่เป็นอะไร เพราะตัวฉันก็ไม่มี...

...ฉันอาหารไม่พิจารณา..... จะเหมือนปลากินเหยื่อแล้วติดเบ็ด...

...เมื่อเราเจ็บป่วยต้องคิดว่า หายก็เอาตายก็เอา
ถ้านึกอยากหายอย่างเดียวเป็นทุกข์แน่...

...คติธรรม คำคม โดยหลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง...

จากคุณ : โก๋ 2000 ปี [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 17:59:52 น.]

ความคิดเห็น : สายธาร ขุนเขา ตะวันรอน และสายหมอก
โดยคุณ : เอก akac@thaimail.com [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 21:23:55 น.]

ความคิดเห็น : แสงเรือง เรืองประเทืองส่อง
ดุจสีทองของธธรมนำให้เห็น
สะดุดตาสะดุดใจในประเด็น
เกิดมาเป็นคนทั้งทีให้มีธรรม
โดยคุณ : กุหลาบเวียงพิงค์ [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 16:47:50 น.]

ความคิดเห็น : ทุกข์เพราะคิดพินิจรู้สู่กันมาก
ช่างลำบากด้วยคิดผิดธรรมนั่น
คิดทางถูกปลูกใจใฝ่ธรรมกัน
ปัจจุบันนั้นรับรู้อยู่ถูกธรรม.
โดยคุณ : ดอกสารภี [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 18:02:23 น.]
รื่นเริงธรรม ตอน ๒๙ ภาษิตต้นไม้...
รายละเอียด : ...อนิจจัง....... แปรเปลี่ยน ไม่หยุดอยู่
ทุกขัง............ แทนได้ยาก ยังไม่ไหว
อนัตตา.......... แหลกสลาย ทำลายไป
สามอย่างให้.... หมั่นพินิจ คิดทุกวัน
ต้องเวียนเกิด.. เวียนตาย ตามบุญบาป
เมื่อไรทราบ..... ธรรมแท้ ไม่แปรผัน
ไม่ต้องเกิด...... ไม่ต้องตาย สบายครัน
มีเท่านั้น.......... ใครหาพบ จบกันเอย...

...ภาษิตธรรม ตามใต้ต้นไม้ ณ วัดหนองป่าพง
ต.โนนโหนน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี...

จากคุณ : โก๋ 2000 ปี [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 18:01:29 น.]

ความคิดเห็น : คุณโก๋ จะรวมเล่มพุทธภาษิตหรือจ๊ะ ส่งมาเป็นชุดเลย
โดยคุณ : สาธุ เห็นด้วย [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 18:11:12 น.]

ความคิดเห็น : ภาษิตธรรม ตามต้นไม้ ที่ได้กล่าว
มีให้เราชาวพุทธไว้อ่านหนา
ให้ซึ้งถึงสัจจธรรมที่กล่าวมา
เหล่าประชาซึ้งถึงรสพระธรรม
โดยคุณ : บัวหลวง [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 18:17:21 น.]

ความคิดเห็น : ภาพนี้มีความสวยงามนะ
โดยคุณ : เอก akac@thaimail.com [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 21:21:33 น.]

ความคิดเห็น : ภาษิตธรรมมีคำนำสว่าง
ช่วยส่องทางมืดมิดที่คิดหลง
บางช่วงของชีวิตคิดงวยงง
ต้องบรรจงภาษาธรรมนำน้อมใจ
โดยคุณ : ฟ้า!! [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 23:24:31 น.]

ความคิดเห็น : ภาพนี้สื่อ
ความเปลี่ยนแปลง
การตั้งอยู่ทำได้โดยยาก (ภาพนกทั้งหลายบินอยู่ ต้องกระพือปลีก พยุงตัว นั่นแหละขอรับ ตัวทุกข์)
ภาพดอกไม้ จิตใจใสสะอาดขอรับ
ธรรมมีความหลากหลายดั่งไม้ดอกที่มากมายหลากหลายเผ่าพันธุ์
กระแสน้ำตก อธิบาย อนัตตา ได้ดีที่สุด
ไม่มีตัวตน ไหลไปไหลไป ไม่ใช่เพื่อใคร
ชีวิตไม่หยุดนิ่ง สรรพสิ่ง เคลื่อนไหว
เปลี่ยนแปลง ไม่ไใช่เพื่อสิ่งใดเลย ไม่ใช่เพื่อใครเลย
ห้ามให้หยุดกับที่ไม่ได้หรอกขอรับ
ต้องหยุดที่ใจเท่านั้นขอรับ....
...นกเอี้ยงน่ารักนะขอรับ แต่ปากเขาคมมาก
...
โดยคุณ : โก๋ 2000 ปี [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 10:01:06 น.]

ความคิดเห็น : มีเหตุยังหวังผลไม่พ้นแท้
ผลหมดแน่เหตุหมดลดให้ได้
ด้วยพระธรรมแก้เหตุสังเกตไป
หน้าที่ไซร้ละเหตุเตียนไม่เวียนมา.
โดยคุณ : ดอกสารภี [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 18:07:12 น.]
รื่นเริงธรรม ตอน ๓๐ ศีล สมาธิ ปัญญา...
รายละเอียด : ...การบังคับตัวเอง ให้กำหนดลมหายใจ ข้อนี้เป็น ศีล...
...การกำหนดลมหายใจได้ และติดต่อกันไปจนจิตสงบข้อนี้เรียกว่า สมาธิ...
...การพิจารณากำหนดรู้ลมหายใจว่า ไม่เที่ยง ทนได้ยาก ข้อนี้เรียกว่า ปัญญา...

...ภาษิตใต้ร่มไม้ หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง...

จากคุณ : โก๋ 2000 ปี [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 18:25:36 น.]

ความคิดเห็น : มีศิลปะดีครับ
โดยคุณ : เอก akac@thaimail.com [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 21:13:59 น.]

ความคิดเห็น : มีสติจับปัจจุบันให้มั่นอยู่
จิตจดรู้จับทันนั่นมหาสติ
ผลจะเป็นปัญญาว่าวิสุทธิ
ทำสติให้รับรู้อยู่ผู้เดียว
โดยคุณ : กุหลาบเวียงพิงค์ [พฤ. 20 เม.ย. 2543 - 21:29:15 น.]

ความคิดเห็น : ภาพนี้สื่อ
ปฐมธาตุ ขอรับ
อันประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ ประกอบเป็นร่างกาย...
เป็นที่พักอาศัยของจิต
อย่างอื่น ก็จะตามกันมาขอรับ
อันได้ศีล อันเป็นอาภรณ์ที่สวยงาม
สมาธิ ความตั้งมั่นแห่งจิต
สุดท้ายปัญญาขอรับ หวังความรื่นรมย์มากกว่าขอรับ
ภาพนี้มีทั้งทะเล ศิลป์ หินผา หลากหลายขอรับ
นำไปใช้ได้ขอรับ
ใช้โปรแกรมเอมิเนชั่นแยกออกทีละเฟรมได้
นำไปให้ได้ตามสะดวก...
เพลิดเพลิน รื่นเริง บรรเทิงธรรม ไปเรื่อย ๆ ขอรับ..
หลายท่านชอบแตกต่างกันออกไป พยายามทำให้หลากหลายขอรับ....
โดยคุณ : โก๋ 2000 ปี [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 09:57:33 น.]

ความคิดเห็น : ไตรสิกขากำหนดจดจำมั่น
ศีลสำคัญรักษาพาจิตใส
สมาธิมั่นคงจำนงใด
ปัญญาไซร้ไหลมีชี้ชวนพึง.
โดยคุณ : ดอกสารภี [ศ. 21 เม.ย. 2543 - 18:11:31 น.]