1.gif (7438 bytes)
หน้าสารบัญ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า
สิบ สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม สิบสี่ สิบห้า สิบหก สิบเจ็ด สิบแปด


lo1.gif (2390 bytes)     ๑๒. ถาม การใช้สติสัมปชัญญะกำหนดอิริยาบถนั้น หากผู้ปฏบัตไม่รู้เท่าทันถึงเหตุผลแล้วอรยาบถก็อาจเป็นปัจจัยให้เกดอภชฌาและโทมนัสได้ใช่ไหม

lo1.gif (2390 bytes)          ตอบ ถูกแล้ว อิริยาบถเก่าเป็นอิริยาบถที่จะหมดอายุแล้ว จึงเกิดความปวดเมื่อยเป็นทุกขเวทนา ถ้าไม่มนสิการให้ดีแล้ว ก็อาจทำให้เกิดโทมนัสไม่พอใจในอนิฏฐารมณ์คือความปวดเมื่อยนั้นก็ได้ หรือขณะที่เราจะเปลี่ยนไปเป็นอิริยาบถใหม่ จะเป็นอิริยาบถใดก็ตาม ถ้าผู้ปฏิบัติไม่ใช้โยนิโสมนสิการให้ดีแล้วก็อาจอาศัยอิริยาบถใหม่ซึ่งเป็นอิฏฐารมณ์ที่น่าปรารถนานั้น ทำให้เกิดอภิชฌาคือความพอใจในอิริยาบถใหม่ที่คิดว่าจะหายเมื่อยนั้นก็ได้ ดังนั้นการรู้เท่าทันในอิริยาบถทั้งเก่าและใหม่ให้เห็นว่าเป็นเพียงการแก้ทุกข์ไปชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น ความจริงแล้วไม่มีอิริยาบถใดดอกที่จะเป็นความสุข ที่จริงก็เป็นทุกข์ด้วยกันทั้งนั้นแหละd1.GIF (11900 bytes) แต่ที่เราคิดว่าถ้าผลัดเปลี่ยนไปเสียได้จะสบายนั้นนั่นเป็นการเข้าใจวิปลาสคลาดเคลื่อนไปต่างหาก ก็ถ้าหากผู้ปฏิบัติได้พยายามใช้โยนิโสมนสิการกำหนดให้รู้เท่าทันอิริยาบถทุกอิริยาบถ จนสามารถแยกความรู้สึกออกได้ว่า การเดิน ยืน นั่ง และนอนนี้ เป็นเพียงว่ารูปธรรมเท่านั้น แล้วแต่ละอิริยาบถก็ไม่ใช่เป็นรูปเดียวกันอีกด้วย อย่างนี้ก็จะสามารถถอดถอนความเข้าใจผิดที่ว่า เราเดิน เรายืน เรานั่ง และเรานอน หมายความว่าเอาความเป็นเราออกไปเสียจากรูปได้เช่นนี้ ความเข้าใจผิดต่างๆอันเป็นตัวความเห็นผิดที่เรียกว่า”สักกายทิฏฐิ” ก็จะหมดไปทุกๆขณะที่ปัญญาอย่างนี้เกิดขึ้น ตรงนี้แหละที่ท่านเรียกว่า “ประตูที่จะนำให้เข้าถึงตัวพระพุทธศาสนา” ที่แท้จริงละ เดิมเราได้ยินแต่ครูในภายนอกสอนว่า “นามรูปไม่เที่ยง เป็นอนิจจัง ทุกขัง และเป็นอนัตตา” แต่บัดนี้เราได้พบครูตัวจริงในภายในสอนแล้ว หมายความว่า-นามรูปที่เรากำหนดรู้เท่าทันนั้นแหละ มันจะแสดงความจริงให้เราได้รู้หมดทุกอย่างจนกว่าจะหมดไปจากความสงสัยในพระพุทธศาสนาอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องมีผู้วเศษคนใดมาสั่งสอนอีกแล้ว”ปจฺจตฺตํ  เวทิตพฺโพ วิญฺญูหิ”   แปลว่า-อันผู้รู้ทั้งหลายจะพึงรู้ได้เฉพาะตน-นี่แหละจงจำไว้เถิดเป็นต้นทางที่จะให้ผู้ปฏิบัติบรรลุถึงจุดที่ว่านี้ละสงสารการท่องเที่ยวไปในภพน้อยภพใหญ่ของสัตว์ทั้งหลายจะสิ้นสุดลงได้ก็ตรงจุดนี้แหละ ชนทั้งหลายจะปิดประตูอบายได้ก็ต้องตั้งต้นกันตรงนี้แหละ จึงขอให้ท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลายจงโปรดมนสิการใส่ใจไว้แล้ว ก็เสาะหาเวลาปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงจุดนี้เถิด จะชื่อว่า-

          พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ แปลว่า ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธเจ้าว่าเป็นสรณะ

          ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ แปลว่า ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระธรรมเจ้าว่าเป็นสรณะ

สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ แปลว่า ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระสงฆ์เจ้าว่าเป็นสรณะ

 

ขอจบการอธิบายอิริยาบถบรรพโดยย่อเท่านี้

mail.gif (4673 bytes)
จัดทำโดย
มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ
flower.gif (1468 bytes)